วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หมอสุรวิทย์" กำชับเจ้าหน้าที่ระวังโรคฉี่หนูระบาด ให้ความรู้ประชาชนป้องกันโรค หลังมีรายงาน ป่วย 1,076 ราย เสียชีวิต 22 ราย น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมราชการและมอบนโยบายแก่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ และ ยโสธร ว่า ช่วงฤดูฝน โรคที่น่าห่วงช่วงนี้ คือ โรคฉี่หนู หรือ เล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีอาชีพทำไร่ทำนา จะมีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อโรคสูงกว่าฤดูอื่น เนื่องจากว่ามีแหล่งน้ำขังจำนวนมาก เชื้อโรคจะอยู่ในฉี่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น หนู วัว ควาย พบมากที่สุด ฉี่ของหนูทุกชนิด เชื้อจะปนเปื้อนอยู่ตามแอ่งน้ำขังต่างๆ ดินโคลนที่เฉอะแฉะ และเข้าสู่ร่างกายคนเราได้ 2 ทาง คือ จากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ และเชื้อไชเข้าทางแผล เยื่อบุในปาก หรือตา หรือเข้าทางรอยผิวหนังถลอก รวมทั้งผิวหนังปกติที่แช่น้ำนานๆ หลังติดเชื้อประมาณ 7 - 10 วัน จะเริ่มมีอาการคือ มีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะปวดตามกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะที่น่องขาทั้ง 2 ข้างในปี 2555 ตั้งแต่ 1 มกราคม - 24 มิถุนายน 2555 ซึ่งพบผู้ป่วยแล้ว 1,076 ราย ใน 64 จังหวัด เสียชีวิต 22 ราย โดยพบผู้ป่วยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มากอันดับ 1 กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.ทั่วประเทศเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิดในช่วงฤดูฝนต่อเนื่องจนถึงต้นฤดูหนาวและเร่งให้ความรู้วิธีการป้องกันตัวแก่ประชาชนเพื่อลดการป่วยและการเสียชีวิต

ตำรวจพบศพเด็กทารก 4 เดือน ยัดกระเป๋าพร้อมชุดนักเรียน ถูกทิ้งไว้ในวัดดัง เมืองด่านซ้าย จ.เลย ร.ต.อ.วัฒนา จันพาลา ร้อยเวรสอบสวน สภ.ด่านซ้าย จ.เลย ได้รับแจ้งจาก เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย ว่า พบกระเป๋าสะพายสีดำ ถูกกองทิ้งไว้ใต้ต้นไผ่ภายในวัด ซึ่งเมื่อเปิดออกดู พบเสื้อนักเรียนสีขาว 1 ตัว ไม่ระบุสถานศึกษา กระเป๋านักเรียน 1 ใบ และถุงพลาสติกสีดำ (ถุงขยะ) 1 ใบ เมื่อได้เปิดเสื้อออกดู เจ้าหน้าที่ก็ต้องตกตะลึง พบว่าเป็นศพทารกเพศชาย วัยประมาณ 4-5 เดือน อยู่ในสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ โดยยังมีสายรกติดอยู่และมีเศษรกและน้ำคร่ำสีแดงอยู่ภายในถุง ยังใหม่อยู่ คาดว่าไม่เกิน 10 ช.ม.จากการสอบถาม เจ้าอาวาสฯ ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีชายวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาปรึกษาว่าแฟนสาวแท้งลูก อยากจะให้เจ้าอาวาสฯ ช่วยดำเนินการเผาศพทารกให้หน่อย แต่ทางเจ้าอาวาสฯ ปฏิเสธที่จะเผา เนื่องจากว่าผิดกฎหมาย และแนะให้ไปแจ้งความ จากนั้นวัยรุ่นคนดังกล่าว ได้ขับรถออกไปจากวัด

หนุ่มลงน้ำหาปลาดับปริศนา
ศูนย์วิทยุลำภูรับแจ้งเหตุมีผู้จมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณสระน้ำหลังศาลากลางจังหวัดหนองบัวลำภู หลังจากรับแจ้งเหตุแล้ว พ.ต.ท.สุมนชาย จำนงนิตย์ สารวัตรเวรสอบสวน พร้อมหน่วยกู้ภัยมังกร หนองบัวลำภู และแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองบัวลำภู รีบรุดไปที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำหลังร้านก๋วยเตี่ยวบริเวณสายรอบเมืองหลังศาลากลางจังหวัดหนองบัวลำภู พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังว่าคือนายไพฑูรย์ ศิริสถิตย์ อายุ 40 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 7 บ้านดอนขี่ ต.ลำภู อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู สวมกางเกงขาสั้นสีดำไม่สวมเสื้อ โดยสอบถามนายจุก ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้นั่งดื่มเหล้ากับผู้ตายตั้งแต่เช้า และเห็นผู้ตายว่าจะลงไปงมปลาในบ่อปลามาทำกับแกล้มเหล้า และตนเองได้ลงไปด้วยสักพักเห็นผู้ตายได้ดำน้ำลงไปงมปลาและไม่โผล่ขึ้นมาเกือบครึ่งชั่วโมงจึ่งได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมังกรมาช่วยงมหาร่างผู้ตายจนพบศพดังกล่าว ทางแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองบัวลำภูได้ลงความเห็นว่าผู้ตายเสียชีวิตเกิดจากอากาศร้อนและลงน้ำทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันทำให้เกิดอาการช๊อคเสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามญาติๆไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ จากนั้นได้มอบร่าง นายไพฑูรย์ ฯให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จ.หนองบัวลำภู จัดงานครบรอบ 10 ปีกองทุนยิ่งใหญ่
กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จ.หนองบัวลำภู จัดงานครบรอบ 10 ปีกองทุนยิ่งใหญ่

ณ.อาคารกาญจนภิเศษ สนามนเรศวรหมาราช นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานครบรอบ 10 ปี กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จ.หนองบัวลำภู โดยนางไพเราะจิต เจริญยิ่ง ประธานคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ ว่าเพื่อเผยแพร่ผลงาน ของกองทุนหมู่บ้านในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา อำเภอเมืองหนองบัวลำภูมีกองทุนทั้งสิ้น 180 กองทุน มีคณะกรรมการเครือข่ายตำบล 15 ตำบล และมีสมาชิกทั้งหมด 40,213 คน มีความสามารถจัดการกองทุน ได้เป็นอย่างดีสมกับเจตนารมณ์ของการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านที่ตั้งขึ้น เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดรายจ่าย และการเก็บออมไว้ใช้ในวันข้างหน้าคณะกรรมการเครือข่ายได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่นการจัดงานครั้งนี้ ได้มีการมอบเกียรติบัตรแก่ คณะกรรมการเครือข่ายตำบลดีเด่น 3 ตำบล กองทุนหมู่บ้านดีเด่น 15 กองทุน และทุนการศึกษาแก่บุตรหลานสมาชิก 55 ทุนในการจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จาก พัฒนาชุมชนจังหวัด และอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ท่านนายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ประธานเครือข่ายอำเภอทั้ง 5 อำเภอ ธนาคารออมสินสาขาหนองบัวลำภู และสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทุกคน จากนั้นได้เชิญ นายกอบเกียรติ ประธานมอบเกียรติบัตร ทุนการศึกษา และเกียรติบัตรให้กับ แก่กองทุนที่ได้รับการคัดสรรจากคณะกรรมการกองทุนที่มารอรับ จากนั้นพร้อมคณะจึ่งได้เดินทางกลับ

มูลนิธิร่วมน้ำใจหนองบัวลำภูเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กพร้อมมอบอุปกรณ์การศึกษา


alt
ณ.โรงเรียนบ้านดงบาก ต.นิคมพัฒนา อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู นายธรรมสรณ์ ฉันทเฉลิมพงศ์  ประธานมูลนิธิรวมน้ำใจหนองบัวลำภู  ร้อยตำรวจตรีหาญชัย เตยขาว รองประธาน ฯ นายไพรัตน์ เอ็งอุทัยวัฒน์ ประธานที่ปรึกษา มูลนิธิรวมน้ำใจหนองบัวลำภู นำชุดนักเรียน,เครื่องเขียนแบบเรียน,รองเท้า,ถุงเท้า มอบให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านดงบากและโรงเรียนบ้านชัยมงคล.จำนวน 120 ชุด โดยมี นายสุริยา นาใจรีบ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดงบาก เป็นผู้กล่าวรายงานและนำคณะครูนักเรียนให้การต้อนรับ พื้นที่ของโรงเรียนตั้งอยู่บริเวณหลังเขาภูเก้าถนนหนทางไปมาลำบากโดยเฉพาะฤดูฝนและห่างไกลจากตัวจังหวัดหนองบัวลำภู มีอาจารย์ทั้งหมด 8 ท่าน ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรและรับจ้าง มีฐานะยากจน และในวันนี้ทางมูลนิธิร่วมน้ำใจหนองบัวลำภูนำสิ่งของมามอบให้กับนักเรียนตนเองดีใจมากและได้กล่าวขอบคุณแทนเด็กๆนักเรียนทุกคน
นายธรรมสรณ์ ฉันทเฉลิมพงศ์  ประธานมูลนิธิรวมน้ำใจหนองบัวลำภู  ได้กล่าวว่าทางมูลนิธิรวมน้ำใจหนองบัวลำภู  เป็นองค์กรการกุศล และจิตอาสา ได้สำรวจพื้นที่โรงเรียนในจังหวัดหนองบัวลำภู ที่อยู่ในถิ่นธุรกันดาร เพื่อจะนำสิ่งของที่ได้รับบริจาค มาบริจาคให้และจะทำทุกปีในช่วงเปิดเทอมโดยในปีนี้มติที่ประชุมได้ลงมติว่าควรจะเป็นโรงเรียนบ้านดงบากซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลและนักเรียนยังขาดแคลนสื่อการเรียนการสอน,อุปกรณ์การศึกษา ฯลฯ และได้กล่าวขอบคุณนายไพรัตน์ เอ็งอุทัยวัฒน์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิ ฯ ที่ร่วมเดินทางมาเป็นเกียรติในวันนี้และเป็นองค์อุปถัมช์ ที่ดีเสมอมา  คณะกรรมการได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับคณะครูและนักเรียน จากนั้นพร้อมคณะจึ่งได้เดินทางกลับ

อาจารย์โรงเรียนดังพร้อมลูกศิษย์ค้ายาบ้าจนมุมตำรวจของกลางอื้อ
พ.ต.อ.พุฒิเดช บุญกระพือ ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภาค 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาลักษณ์ เจริญธนกุล ผกก.สืบสวน ภ.จว.หนองบัวลำภู สั่งการให้ พ.ต.ต.สุโชค ผู้มีโชคชัย สว.กก.สืบสวน ภ.จว.หนองบัวลำภู, พ.ต.ต.กิตติชัย โถวิเชียร สว.กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ. 4 จับกุมนายปริวัตร พยอม อายุ 27 ปี ที่อยู่ 65 หมู่ 1 ตำบลในเมือง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และนายวิทย์ ( นามสมมุติ ) อายุ 17 ปี ที่อยู่ 37 หมู่ 13 บ้านศิริชัย ตำบลนากลาง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมของกลางเป็นยาบ้าสีส้ม WY 603 เม็ด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่านายปริวัตร พยอม ซึ่งเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนมัธยมชื่อดังของจังหวัดหนองบัวลำภูได้นำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับเด็กวัยรุ่นและนักเรียนในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู ตำรวจชุดจับกุมจึ่งได้วางแผนล่อซื้อ พอถึงจุดนัดหมายได้มี นายวิทย์ ( นามสมมุติ ) ได้นำยาบ้ามาส่งมอบให้กับสายลับที่ห้องหมายเลข ๘ หอพักสีน้ำตาล อยู่บริเวณด้านหลังวิทยาลัยเทคนิคหนองบัวลำภู
พบยาบ้าจำนวน 3 เม็ดอยู่ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นสีดำข้างขวา และจากการสอบถามนายวิทย์ฯ รับว่ายาบ้าดังกล่าว เป็นของอาจารย์ปริวัตรฯ ให้ตนนำมาส่ง โดยนายปริวัตร ฯได้ข่มขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะไม่ให้เกรด ซึ่งตนเองกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กำลังจะจบในปีนี้ ชุดสืบสวนจึ่งได้ขยายผลเข้าจับกุมนายปริวัตร พยอม พร้อมของกลางเป็นยาบ้าอีก 3 ถุง จำนวน 600 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในลิ้นชักโต๊ะทำงานภายในโรงเรียน โดยผู้ต้องหานายปริวัตร พยอม ได้ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองเป็นอาจารย์สอนอยู่โรงเรียนดังกล่าวได้ 2 ปี และมีหน้าที่ดูแลหอพักของนักเรียนที่มาเข้าเรียนประจำ โดยซื้อยาบ้ามาจากนายโอ๊ด ( ไม่ทราบนามสกุล ) จากอำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ในราคาเม็ดละ 200 บาทและมาจำหน่ายในราคา เม็ดละ 350 บาท เห็นว่าได้กำไรดี และเงินเดือนที่ได้รับไม่พอใช้จ่าย จึ่งหันมาขายยาบ้าเพื่อหารายได้เสริมให้กับเด็กนักเรียน จนมาถูกจับกุมดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การจับกุมในครั้งนี้โดยการอำนวยการของ
พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.สส.ภ.4
พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู
ประชุมช่วยเหลือผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว

ที่ห้องประชุม ภูฟ้ารีสอร์ท อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ศึกษากลไกป้องกันและช่วยเหลือผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ในระดับพื้นที่” โดยมี นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ

นางสาวบุญน้อม งามเชื้อ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นหน่วยงานสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและมั่นคงของมนุษย์ และเป็นศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองบัวลำภู จึงได้กำหนดจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ศึกษากลไกป้องกันและช่วยเหลือผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ในระดับพื้นที่” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาบทบาท ภารกิจของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันช่วยเหลือ คุ้มครอง ผู้ถูกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ในระดับจังหวัด เพื่อศึกษาการบูรณาการการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการป้องกัน การช่วยเหลือคุ้มครอง การติดตามและประเมินผลผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ของบ้านพักเด็กและครอบครัวและหน่วยงานภาครัฐ เอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อประมวล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดกระบวน

การที่ชัดเจน และ เพื่อให้ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวได้รับการช่วยเหลือและคุ้มครองอย่างมีประสิทธิภาพโดยสามารถเชื่อมโยงกับการทำงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องได้ตรงกับความต้องการและสอดคล้องกับสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล มีผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นทีมสหวิชาชีพในระดับจังหวัดและระดับพื้นที่ มาจากหน่วยงานที่มีการดำเนินงานเกี่ยวข้องกับการป้องกันและช่วยเหลือคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรง อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่โครงการพัฒนาตำบลต้นแบบด้านพัฒนาสังคม ปี 2555 ศูนย์ประชาบดี 1300 บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฯ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู (ศูนย์พึ่งได้) ศาล อัยการ ตำรวจ และองค์กรเอกชน ได้แก่ สถานสงเคราะห์บ้านเอลีชา มูลนิธิบ้านนิจจานุเคราะห์ และเครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะวิทยากรกระบวนการจากศูนย์ประสานงานวิจัยท้องถิ่นจังหวัดหนองบัวลำภู การจัดประชุมครั้งนี้ มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยน ระดมความคิดเห็น เพื่อสรุปกระบวนการปฏิบัติงานด้านการป้องกัน การช่วยเหลือคุ้มครอง และการติดตามประเมินผลที่มีความชัดเจน

โอกาสเดียวกันนี้ นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “แนวทางการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แก่ผู้เข้าร่วมประชุมอีกประเด็นหนึ่งด้วย